ทุกท่านคงจะทราบดีอยู่แล้วว่า ตอนนี้ Facebook Fan Page นั้น โพส Facebook ของเรา มี Engagement Rate เฉลี่ย 1% เท่านั้น

Screen Shot 2558-07-09 at 8.21.03 PMลองดูสถิติ โพส Facebook ที่เกิดขึ้นโดยอ้างอิงจากเว็บไซต์ SocialBakers

จากตัวเลขนี้ทุกท่านจะเห็นว่า ถ้าเรามีคน like Page 100 คน จะมีคน engage (like,share,comment,click) แค่ 1 คนเท่านั้น ซึ่งเป็นจำนวนที่น้อยมาก

ลองจินตนาการต่อว่า สมมติ Business ของเราเป็น Content Provider คือเราหารายได้จากการคิดบทความ หรือนำข่าวที่น่าสนใจมาเรียบเรียงและเผยแพร่ต่อ

ซึ่งทีมงานสร้าง Content ของเราต้องใช้พลัง และความพยายามพอสมควรที่จะสร้าง Content ขึ้นมาหนึ่งชิ้น เพื่อหวังให้คนเห็น และได้อ่านมากที่สุด

แต่สิ่งที่เกิดขึ้นคือ ถ้าหากเรามีคน like fan page 100,000 คน (ซึ่งก็ถือว่าเป็นจำนวนที่ไม่น้อยแล้ว) จะมีคนเห็น post ที่เราบรรจงเขียนนี้เฉลี่ยเพียงแค่ 1,000 คนเท่านั้น ซึ่งเป็นจำนวนที่น้อยมากๆ เพราะว่า 1,000 คน อาจจะคลิกอ่านเพียงแค่ 10-20% เท่านั้น สรุปแล้วจะมีคนอ่านแค่ 100-200 คนเท่านั้น ซึ่งจำนวนคนอ่านแค่นี้ โฆษณาที่ไหนจะอยากมาลงในเว็บจริงไหมครับ??

เหตุผลที่ โพส Facebook ลด Engagement Rate ลงขนาดนี้ ผมคิดว่าไม่ใช่เพราะ Facebook ร้อนเงินแต่อย่างใด แต่เพราะจำนวน Fan Page หรือ โพส ของคนธรรมดาที่เพิ่มขึ้นจำนวนมหาศาล ทำให้เนื้อที่บนหน้า Facebook เหลือน้อยนิดเดียว ดังนั้น Engagement Rate ก็ต้องลดลงเป็นธรรมดา

ดังนั้นสิ่งที่เราสามารถทำได้ก็คือ เราต้องทำการใส่ Budget ในการยิง Facebook Ads ด้วยเช่นเดียวกัน ซึ่งเงินก้อนนี้จะเป็นเสมือน “เชื้อเพลิง” ที่ทำให้ Content ของเราที่ร้อนแรงนั้นติดไฟ และลุกโชติช่วงชัชวาลขึ้นมาได้ (ขนาดนั้น…) ซึ่งทุกๆอย่างล้วนมีสิ่งที่เรียกว่า Tipping Point หรือว่าจุดเปลี่ยนแบบก้าวกระโดด พูดให้ชัดคือ ถ้าคุณอัดงบโฆษณาให้โพส Facebook ของคุณ ไปถึงคนที่ “ใช่” เช่นคุณทำ content เกม แล้วส่งข้อมูลไปถึง เกมเมอร์ แบบนี้ พอเกมเมอร์ทั้งหลายโดนใจกับ Content นั้น ก็จะทำการแชร์ต่ออย่างรวดเร็ว และด้วยเชื้อเพลิงที่เราส่งลงไป จะช่วยให้คนแชร์ Post ได้รวดเร็วมากยิ่งขึ้นหลายสิบหลายร้อยเท่า และเมื่อถึงจุด Tipping point สิ่งนั้นจะกลายเป็น Viral นั่นเอง