[vc_row layout=”normal” parallax=”” video_bg=”” mp4=”” webm=”” video_overlay=”rgba(0,0,0,0.45)” video_placeholder=”” section_id=”” fullscreen=””][vc_column width=”1/1″][vc_column_text css=”.vc_custom_1435302229154{padding-bottom: 20px !important;}”]ใช่แล้วครับ คุณอ่านไม่ผิดหรอก ใครที่ทำโฆษณา Google Adwords กันอยู่ แล้วประสบปัญหาคู่แข่งบิดราคากันอุตตะหลุด

“มาตั้งสติ กำสตางค์” ของคุณไว้แน่นๆ เอาน้ำเอากาแฟมาถ้วยนึง ค่อยๆอ่านบทความนี้อย่างช้าๆ

และมาร่วมวิเคราะห์กับผมว่าทำไม… ผมถึงไม่อยากอยู่อันดับ 1 Google

….และแน่นอนคุณก็อาจจะไม่จำเป็นต้องอยู่อันดับ 1 Google เช่นกัน…

แต่ก่อนอื่น ผมขออนุญาติปูพื้นฐานสำหรับคนที่ยังใหม่กับ Google Adwords มากๆ ถ้าคุณเคยทำ Google Adwords มาซักระยะแล้ว เข้าใจคำว่า CPC และ Quality Score ข้ามหัวข้อเรื่องการคิดค่าใช้จ่ายไปได้เลยครับ

Google Adwords มีวิธีคิดค่าใช้จ่าย และจัดอันดับโฆษณายังไง?

การคิดค่าใช้จ่าย

สำหรับโฆษณา Google Adwords ที่เราจ่ายเงินแล้วอยู่หน้าแรกบน Google หรือที่เราเรียกว่า Search Advertising / SEM / Search Engine Marketing (มีหลายชื่อเนอะ!)  ใช้วิธีคิดเงินแบบ Pay per click หมายความว่า เราจะจ่ายเมื่อมีคนคลิกโฆษณาของเรานั่นเอง ซึ่งถือเป็นจุดเด่นของโฆษณาออนไลน์ที่เก็บเงินตามจริง เพราะเราจะเสียเงินก็ต่อเมื่อคนสนใจโฆษณาของเราจริงๆ และคลิกเข้ามาดูที่เว็บไซต์แล้วเท่านั้น เปรียบเทียบได้เราจ่ายเงินค่าโฆษณาก็ต่อเมื่อมีคนมายืนเลือกของในร้าน (ในเว็บไซต์) เราแล้วนั่นเอง!!

ซึ่งเนื่องจากหน้าแรกบน Google สามารถมีโฆษณา Google Adwords ได้เพียงแค่ไม่เกิน 10 ตำแหน่งเท่านั้น (ด้านบน/ด้านล่างไม่เกิน 3 ตำแหน่ง ด้านขวาไม่เกิน 7 ตำแหน่ง) ดังนั้น

เมื่อมีพื้นที่จำกัดเพียง 10 ตำแหน่ง สงครามจึงเกิดขึ้น!

Google จึงใช้ระบบประมูลค่าคลิกเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในการจัดอันดับนั่นเอง ซึ่งวิธีคิดก็ไม่มีอะไรซับซ้อน ซิมเปิ้ลฝุดๆ คือ “ใครป๋ากว่าก็ชนะ” คือใครประมูลแพงกว่าก็ได้อยู่อันดับดีกว่านั่นเอง เช่น

นายสมชาย ประมูล 30 บาท อยู่อันดับ 1

นายสมเกียรติ ประมูล 25 บาท อยู่อันดับ 2

นายสมใจ(เป็นกระเทย) ประมูล 15 บาท อยู่อันดับ 3

เข้าใจง่ายใช่มั๊ยครับ ^^ 

สำหรับคนที่สายป่านสั้นกว่าคู่แข่ง อย่าเพิ่งตกใจไป เพราะผมบอกได้เลยว่าจริงๆแล้วการทำ Google Adwords ให้ชนะคู่แข่งนั้น… 

ใช้ฝีมือมากกว่าใช้เงิน”

Google ฉลาดพอที่จะไม่ให้ผู้ลงโฆษณาแข่งขันกันด้วยอำนาจแห่งเงินตราเพียงอย่างเดียว!

เค้ายังมอง Quality Score อีกด้วย!

Quality Score คืออะไร?

Quality Score คือคะแนนกคุณภาพการทำโฆษณาของแต่ละเจ้าบน Google Adwords

Quality Score มีคะแนนเต็ม 10 คะแนน

ยิ่งคุณได้คะแนนเยอะเท่าไหร่ คุณก็จะยิ่งจ่ายค่าคลิกถูกลงเท่านั้น!! (ปกติจะถูกกว่ากันตั้งแต่ 2-10 เท่า)

นั่นแปลว่า…

ถ้าคุณ Quality Score สูงกว่าคู่แข่ง ถึงแม้คุณจะประมูลค่าคลิกต่ำกว่า แต่คุณมีโอกาสที่จะอยู่อันดับสูงกว่า ประเสริฐใช่มั๊ยครับ :)

สรุปแล้วการจัดอันดับโฆษณาของ Google จะใช้ตัวแปรสองก็คือ ค่าคลิกสูงสุดที่เราประมูล (Max CPC) และ Quality Score (QS) ประกอบกันนั่นเอง!!

—–กลับมาสู่คำถามสำคัญกันนะครับ

…3 เหตุผลที่ผมไม่อยากอยู่อันดับ 1 Google ??…

1. ค่าคลิกแพงเกินไป มีโอกาสขาดทุนสูง

เหตุผลข้อนี้ดูตรงไปตรงมาที่สุด คงไม่ต้องอธิบายกันให้มากความ จากประสบการณ์ของผม การประมูลค่าคลิกสู้อันดับ 1 นั้น จะราคาก้าวกระโดดกว่าอันดับ 2-3 ค่อนข้างมาก ซึ่งถ้าค่าคลิกที่เราจ่ายแพงเกินไป มีโอกาสที่เราจะขาดทุนสูง

2. คนคลิกโฆษณาส่วนใหญ่ ไม่ได้ดูโฆษณาอันดับ 1 เจ้าเดียว

สมมติว่าเดือนหน้าคุณมีแพลนจะซื้อทัวร์ไปเที่ยวญี่ปุ่น คุณลองถามตัวเองว่าถ้าคุณหาข้อมูลใน Google คุณจะหาข้อมูลในโฆษณาอันดับหนึ่งเจ้าเดียวมั๊ย?? จบป๊ะ!!

3. อยู่อันดับต่ำกว่า มีโอกาสได้คลิกเยอะกว่า

ห๊ะ อะไรน๊ะ!! อยู่อันดับต่ำกว่า จะได้คลิกเยอะกว่าได้ไง เอาที่ไหนมาพูด…! อันนี้มาจากประสบการณ์ทั้งชีวิตผมเลยครับ เนื่องจากลูกค้าส่วนใหญ่ผมเป็น SME ดังนั้น ส่วนใหญ่แล้วจะไม่ได้มีเงินถุงเงินถังอยู่แล้ว ซึ่งถ้างบประมาณคุณไม่ได้มีเหลือเฟือล่ะก็ อย่าพยายามบิดราคาสู้จนเกินเหตุครับ ผมยกตัวอย่างดังนี้

ถ้า

….คุณตั้งงบประมาณต่อวัน (Daliy Budget) ไว้ 500 บาท/วัน สมมติว่าคุณอยู่อันดับ 1 จ่ายค่าคลิก 30 บาทต่อคลิก คุณจะได้ทั้งหมด XX คลิก (ลองกดเครื่องคิดเลข หรือหารในใจดูครับ 555+)

….คุณตั้งงบประมาณต่อวัน (Daliy Budget) ไว้ 500 บาท/วัน สมมติว่าคุณอยู่อันดับ 4 จ่ายค่าคลิก 5 บาทต่อคลิก คุณจะได้ทั้งหมด 125 คลิก ซึ่งจะน้อยกว่า XX ข้างบนแน่นอน (เอ้า! ลองหารรึยังล่ะ) แล้วคุณจะพบว่า คุณได้คลิกเยอะกว่าตั้ง 6 เท่า

การได้คลิกมากกว่า 6 เท่า หมายถึงโอกาสในการขายที่มากขึ้น 6 เท่าด้วยเช่นกันครับ เพราะมีคนเห็นสินค้า เห็นบริการในเว็บไซต์ของคุณมากขึ้นถึง 6 เท่า  นั่นหมายถึงคุณจะมีโอกาสทำกำไรจากการลงโฆษณาที่มากขึ้นครับ

—–

ครบ 3 ข้อแล้ว อาจจะมีคนสงสัยว่า แล้วแบบนี้การอยู่อันดับ 1 ใน Google มันจะมีข้อดีอะไรบ้างมั๊ยเนี่ย?? มันควรจะต้องมีสิ่!!

ไว้ติดตามรออ่าน Blog ต่อไปคร๊าบ

สำหรับทุกๆท่านที่เข้ามาอ่าน ถ้ามีความเห็นเป็นอย่างอื่น เชิญแลกเปลี่ยนกันใน comment ด้านล่างได้เลยนะครับ ^^

[/vc_column_text][/vc_column][/vc_row][vc_row][vc_column width=”1/1″ css=”.vc_custom_1436268278388{margin-bottom: 20px !important;}”][vc_message message_box_style=”3d” message_box_color=”green” style=”rounded” icon_type=”fontawesome” icon_fontawesome=”fa fa-comment-o” icon_openiconic=”vc-oi vc-oi-dial” icon_typicons=”typcn typcn-adjust-brightness” icon_entypo=”entypo-icon entypo-icon-note” icon_linecons=”vc_li vc_li-heart” icon_pixelicons=”vc_pixel_icon vc_pixel_icon-alert”]Your Turn!
คุณคิดว่าการอยู่อันดับ 1 Google จำเป็นสำหรับคุณหรือไม่?

เชิญแลกเปลี่ยนกันใน Comment ครับ ^^[/vc_message][/vc_column][/vc_row]