ลงโฆษณา Facebook วันละเท่าไร ถึงจะได้ผล ? ตอบยาก คือที่มันตอบยากเพราะว่า ข้อมูลมันน้อยเกินไปเราไม่รู้ว่าคนถาม
เขามีคนตามเพจอยู่เท่าไร ? ขายอะไร ? กำไรเท่าไร ? และคำว่าได้ผล ผลที่เขาอยากได้ คืออะไร ? และเขาอยากได้ผลนั้น
มากน้อยขนาดไหน ? เป็นตัวเลขเท่าไร ภายในเวลาเท่าไร ? เขาทำธุรกิจนี้มานานหรือยัง ? เขาเคยขายของตัวนี้ ในช่องทางอื่น
มาได้หรือยัง ? มันก็เลยตอบยาก แต่ว่าถ้าพอจะให้ข้อมูลที่มันเป็น fact ได้ อย่างหนึ่งก็คือ Facebook เขากำหนดไม่ให้ลงน้อยกว่า วันละ 30 บาท

อันนี้คือต่ำที่สุดแล้วที่เราเซ็ตได้เราเซ็ตต่ำกว่านี้ไม่ได้แล้วเริ่มต้นคือ 30 บาทต่อวัน ก็คือเดือนละ 900 บาท โดยประมาณแต่ทีนี้
ถามว่า ปกติเวลาพี่รับลูกค้างบประมาณที่พี่ให้ใช้เริ่มต้นก็คือวันละ 100 บาท เดือนละ 3,000 บาท อันนี้คือน้อยที่สุดแล้วนะซึ่ง
ว่ากันจริง ๆ ลูกค้าทุกวันนี้พี่ก็ไม่เน้นลูกค้าที่ใช้เงินน้อยขนาดนี้เพราะว่าด้วยเหตุผลอย่างอื่น ด้วยตลาดที่เราเน้น ทีมงานที่เรา
เน้นดูแลฝึกอบรมขึ้นมาเราเน้นดูแล SME ที่โตหน่อยก็เลยจะใช้เงินเยอะกว่านี้โดยเฉลี่ย ต้องวันละ 1,000 บาทเป็นอย่างน้อย

ดังนั้นว่ากันจริง ๆ แล้วทุกวันนี้พี่ไม่รู้ว่า ถ้าลงแค่วันละ 100 บาท มันยังได้ผลอยู่หรือเปล่าด้วยซ้ำไป หมายถึงว่าในแง่ยอดขาย
แต่จะว่ากันจริง ๆพี่ก็มีธุรกิจอีกตัวหนึ่ง ขายทัวร์ซึ่งจริง ๆ บางแพ็กเกจ ที่เราขายเราขายหลายประเทศ ขายหลายอย่างบาง
แพ็กเกจพี่ก็ใช้วันละ 150 บาท ก็ขายได้เฉลี่ย วันละ 1-2 ออเดอร์ ก็ขายได้สรุปแล้วก็คือ ที่แน่ ๆ อย่างหนึ่งถ้าเราเริ่มจากทำโดย
การใช้เงินน้อย ๆ สมมติว่าวันละ 100 บาท แล้วเราขายแล้วได้กำไรเราก็เพิ่มเงินได้ เพื่อให้มันได้ยอดขายและกำไร เยอะขึ้นอันนี้
เป็นสิ่งที่พี่คิดว่า ควรจะทำก็คือ ถ้าคนที่มีเงินน้อยควรจะลองให้ได้กำไรก่อน แล้วค่อยเพิ่มเงินแต่ว่าถ้าใครที่รู้สึกว่ามีต้นทุนเวลา
หรือว่าต้นทุนอย่างอื่นเยอะเช่น ไม่อยากจะใช้เวลาในการลองนาน ถ้าเป็นอย่างนั้นเราก็ควรเพิ่มเงินต่อวันเยอะขึ้น

ดังนั้นในคอร์สพี่ เวลาพี่สั่งการบ้าน งบต่อวันโดยเฉลี่ยถ้าเกิดว่าทำการบ้านครบเต็มที่ก็คือจะใช้เงินประมาณวันละ 1,000 บาท
ดังนั้นถ้ามีเวลาทำการบ้านสัก 5-7 วันก็จะใช้ประมาณ 5,000-7,000 บาทซึ่งมันก็จะเร็วกว่า ที่สั่งการบ้านแล้วพี่ให้ใช้แค่งบ
500-700 บาท คือหมายถึงกว่าวันสุดท้าย ที่เรามารีวิวการบ้านกัน ถ้าเราใช้แค่ 700 บาท เราก็จะเห็นผลลัพธ์นิดเดียวเห็นตัว
เลขให้วิเคราะห์นิดเดียวแต่ถ้าเราใช้เยอะ เราก็เห็นเยอะกว่าจริง ๆ มันก็ไม่มีตายตัว ว่าจะต้องใช้เท่าไรแต่ว่าพี่แค่กำหนดเป็นเกณฑ์
คร่าว ๆ ขึ้นมาจากความเคยชิน จากประสบการณ์ ที่แน่นอนก็คือ สมมติว่าเราจ่ายเงิน 100 บาท กับจ่ายเงิน 1,000 บาทต่อวัน
คนเห็นโฆษณามันก็จะไม่เท่ากันแล้วทีนี้ถามว่ามีตัวเลขที่ให้ได้แน่นอนไหมก็คือจากประสบการณ์พี่จริง ๆ มันมีรายละเอียดเยอะ
แต่ว่าเบื้องต้น สมมติว่าเราจ่ายเงิน 100 บาทเราจะมีคนเห็นโฆษณา ประมาณ 1,000 ครั้งหรือประมาณ 1,000 คน จริง ๆ ถ้าเป็นศัพท์
ดิจิทัลเขาเรียกว่า Cost per thousand impressions ก็คือ ” ต่อคนเห็น 1,000 ครั้ง ” คือเวลาทำโฆษณาเขาจะมีหน่วยสากล
คล้าย ๆ กับของ Google ว่าเราเสียเงินต่อคลิก คลิกละกี่บาทเขาก็จะเรียก Cost per Chick ก็คือคลิกหนึ่ง 5 บาทอีก keyword
หนึ่ง คลิกหนึ่ง 10 บาท อันนี้คือ คลิกละ 5 บาท คลิกละ 10 บาทแต่ว่าถ้าใน Facebook จริง ๆ ใน Google ก็มีนะมันก็จะมีตัวหนึ่ง
เขาเรียกว่า Cost per thousand impressions ก็คือ กว่าคนจะเห็น 1,000 ครั้ง เสียเงินกี่บาทซึ่งราคาตอนนี้ ก็อยู่ตั้งแต่ประมาณ
50-200 บาท ต่อคนเห็น 1,000 ครั้งสมมติว่าพี่ตีกลาง ๆ ก็คือ 100 บาท ต่อคนเห็น 1,000 ครั้งแ ปลว่าถ้าเราใช้วันละ 100 บาทคนก็
จะเห็นเรา 1,000 ครั้งถ้าเราใช้วันละ 1,000 บาทคนก็จะเห็นเรา วันละประมาณ 10,000 ครั้ง

อันนี้ก็คือตัวเลขคร่าว ๆแต่ว่า ว่ากันจริง ๆ เราไม่สามารถที่จะ คนเห็น 100 ครั้ง แล้วจะซื้อกี่เปอร์เซ็นต์นะคนเห็น 1,000 ครั้งแล้วจะ
ซื้อกี่เปอร์เซ็นต์ การจับวัดตรงนี้ ค่อนข้างที่จะไม่นิ่ง ดังนั้นมันก็เลยพูดยาก ไม่มีค่ากลางแต่ว่าเบื้องต้นก็คือ ราคาที่เราจ่ายแล้วเราจะได้

ทีนี้ต่อมาก็คือสมมติเราจ่าย 100 บาท แล้วคอนเทนต์เรา หรือว่าสินค้าเราหรือโปรโมชันของสินค้าเรามันไม่น่าสนใจ มันก็จะได้ผลอย่าง
หนึ่งแต่ถ้ามันน่าสนใจ มันก็จะได้ยอดขายมากกว่า หรือถ้าคอนเทนต์ดีเท่ากันใช้งบ 100 บาทเหมือนเดิม แต่เราเลือกกลุ่มเป้าหมายตรง
กว่ากับเลือกกลุ่มเป้าหมายแบบไม่ตรง อันที่เลือกกลุ่มเป้าหมายตรงมันก็จะได้ยอดขายมากกว่าอันที่เลือกไม่ตรง มันก็อาจจะขายไม่ได้
เลย สมมติว่าพี่ขายอะไรสักอย่างที่มีราคาสูงคือถ้าสมมติ เราขายรถเบนซ์ รถเบนซ์เราก็ต้องขายคนที่ มีกำลังซื้อสูงแล้วสมมติว่าเงิน
100 บาทต่อวัน 100 บาทเรายิงไปหาสมมติว่าผิดกลุ่มเต็ม ๆ คือเรายิงไปหาคนไม่มีกำลังซื้อเราก็จะขายไม่ได้ค่อนข้างแน่แล้วสมมติว่า
เรายังยิงผิดอยู่แล้วเราเพิ่มเงินจาก 100 เป็น 1,000 บาทเราก็มีโอกาสสูงมาก ที่จะขายไม่ได้เหมือนเดิมหรือขายได้แต่อาจจะขาดทุน
แต่ว่าถ้า 100 บาท เราเปลี่ยนกลุ่มเรายิงไปหาคนที่มีกำลังซื้อสูงทั้ง 100 บาท มันไปถึงคนที่มีกำลังซื้อสูงทุกบาททุกสตางค์โอกาสใน
การขาย ก็มากกว่าแน่นอนอันนี้มันตายตัว ไม่มีผิดไปจากนี้ ทีนี้อย่างที่เราเคยคุยกันในคลิปก่อน ๆ นะครับ พี่เคยบอกว่าการทำโฆษณา
Facbook เราต้องดู 2 เรื่องอันนี้พูดในแง่กลุ่มเป้าหมายนะ ก็คือหนึ่ง เราดูว่าเขามีลักษณะแบบไหนกับสอง เขาสนใจเรื่องอะไร
เมื่อกี้เราพูดถึงเขามีลักษณะแบบไหน ก็คือกำลังซื้อสูงสมมติว่าเราไปหาคนมีกำลังซื้อสูง ได้แล้วโอกาสในการขาย ก็จะดีขึ้นมาหน่อยแล้ว
แต่โดยมาก ณ วันนี้ ก็จะยังไม่เวิร์คเราต้องเอาคนที่มีกำลังซื้อสูงและกำลังสนใจรถเบนซ์มันถึงจะมีโอกาสขายได้ มากขึ้นมหาศาลเลยเพราะ
ว่าคนที่มีกำลังซื้อสูงทุกคนไม่ได้อยากซื้อเบนซ์ตอนนี้แต่คนที่มีกำลังซื้อสูง และสนใจเบนซ์แม้ว่าไม่ใช่ทุกคนแต่ว่าอย่างไร เทียบเป็น
สัดส่วนเขาต้องมีโอกาสซื้อเบนซ์มากกว่า อันนี้คือวิธีพื้นฐานเบื้องต้นก็คือมันอยู่ที่การ target ด้วย

โดยสรุปก็ขมวดกลับไปตอบคำถามตั้งแต่แรกก็คือใช้เงินเท่าไร ถึงจะเริ่มขายของได้ ถ้าคุณเงินน้อยผมแนะนำว่าเริ่มที่ 100 บาท
แล้วเอาให้ 100 นี้ขายให้ได้ซึ่งถ้าเราทำทุกอย่าง make sense ภายใน 2-3 วันเราควรจะต้องเห็นคนถาม หรือคนติดต่อมาหรือ
เห็นสัญญาณซื้อบางอย่างแล้วคนคอมเมนต์ถาม อะไรอย่างนี้ถ้าภายใน 2-3 วัน วันละ 100 บาทเรายังไม่เห็นอะไรเลย เงียบกริบ
เงียบกริบ นี่ไม่ใช้กดไลค์ กดไลค์เฉย ๆ ก็ถือว่าเงียบมันต้องมีคนถามเท่านั้นเราถึงจะบอกได้ว่า มันเริ่มได้ผล ถ้ากดไลค์เฉย ๆ ไม่นับ

ดังนั้น ถ้าเกิดว่าภายใน 3 วัน ยังเงียบมาก ๆ อยู่แสดงว่า มีอะไรสักอย่างมีปัญหาแล้ววิธีตรวจสอบง่าย ๆ อย่างหนึ่งก็คือกดดูหน้า
คนที่มากดไลค์ กดไปดูหน้า ไปดูโปรไฟล์เขาเลยว่าของที่เราขาย หน้าตาเขาอย่างนี้ มัน match กันไหม เราบอกเราขายรถเบนซ์
แต่พอกดไป แว้นมาเลยหรือว่าดูไม่มีกำลังซื้อดูแล้วรู้เราก็ข้าม ๆ ไปข้าม ๆไปหมายถึงว่า ก็ต้องเปลี่ยนไปยิงกลุ่มเป้าหมายใหม่แต่
ถ้าดูแล้วใช่ อันนี้ก็โอเคหรือสมมติเราขายเสื้อผ้าคนอ้วนเรากดไปดูคนกดไลค์ ไม่อ้วนสักคนหนึ่งเราก็จะรู้แล้วว่า อย่างนี้คือเรายิงผิด
เราจะเปลี่ยนคนเทนต์อย่างไร เรายิงผิดกลุ่มก็เขาผอม เขาก็ไม่ซื้ออยู่ดีเราจะไปจัดโปร จัดอะไรเขาก็ไม่ซื้ออยู่ดี

ดังนั้นก็ดูกลุ่มเป้าหมายว่าหมายถึงว่า ในกรณีเงียบนะ ก็ตรวจสอบถ้าเราดูหน้าคนกดไลค์แล้ว ดูส่วนใหญ่ไม่ใช่ทุกคนหรอก แต่ว่า
ส่วนใหญ่ตรงกลุ่มเป้าหมายก็แสดงว่า คอนเทนต์อาจจะมีปัญหาก็ไปปรับคอนเทนต์ซึ่ง ในเรื่องคอนเทนต์ ก็ต้องพูดอีกยาวแต่ว่า
อันนี้เป็นวิธีง่าย ๆจริง ๆ มันมีวิธีที่มันลึกแล้วก็ต้องใช้อะไร หลากหลายกว่านี้ ณ วันนี้แต่ว่าวิธีง่าย ๆ เบื้องต้น ก็คือมองแค่นี้แล้วก็
อีกกรณีหนึ่งคือ ถ้าภายใน 3 วันเริ่มเห็นสัญญาณที่ดี ขายได้กำไรแล้วเป็นพี่ พี่อาจจะดูสัก 3-4 วัน ให้มันครบ หนึ่งสัปดาห์ค่อยลอง
เพิ่มเงินเพิ่มเงินก็แล้วแต่สะดวกแต่ว่าถ้าเอาให้เห็นชัด ๆ หน่อยปกติพี่ก็แนะนำ ลองเพิ่มทีละ 2 เท่าไปเลยแบบวันละ 100 เพิ่ม
เป็นวันละ 200 วันละ 200 ก็ลองเพิ่มเป็น 400 วันละ 500 ก็ลองเพิ่มเป็น 1,000 ถ้าเพิ่มแค่ 30 บาท ก็ไม่รู้ว่ามันดีขึ้นจริงหรือเปล่า
ทีนี้ก็ ปล่อยมัน run ไปเราก็มีโอกาส จะได้ยอดขายเยอะขึ้นแล้ว แต่ทีนี้มีอย่างหนึ่งที่ต้องระวัง ก็คือใน 3 วันนั้นที่เราจะดู ว่ามันได้
ผลหรือไม่ได้ผล ต้องระวังว่าอันนี้ไม่ใช่ทุกกรณีนะบางทีก็มีข้อยกเว้นแต่ว่าโดยทั่วไปก็คือ มันต้องไม่ใช่วันหยุดยาวมันต้องไม่ใช่
วันหวยออกมันต้องไม่ใช่วันปีใหม่วันอะไรที่ เขาไม่มาอยู่หน้าจอคอม ซื้อของกันเขาไปเที่ยว เขาไปอะไรกันมันต้องไม่ใช่วัน
ประหลาด ๆ พิเศษ อะไรอย่างนี้ แล้วก็ถ้าเราขายของ ราคาไม่แพงขายคนทั่วไปอย่างนี้เรื่องวันเงินเดือนออกก็มีผลมาก
อันนี้มีผลมาก ๆเราดูได้เลยว่าปลายเดือนหรือต้นเดือนเวลาเราไปห้างคือคนมันจะแน่นมันก็เหมือนกัน ก็คือ เขามาช็อปปิ้งกัน
ถ้าเป็นวันปกติทั่วไปก็ดูอย่างนี้ได้

ดังนั้นจริง ๆ แล้ว นอกจากสามวันจริง ๆ ถ้าในคลาส ธุรกิจที่มาเรียนเขาจะใหญ่หน่อยพี่ก็จะแนะนำว่า อย่างน้อย 7 วันดูอย่างน้อย
7 วันครบหนึ่งสัปดาห์เพราะมันไม่มีวันหยุด ของไทยวันไหนที่มันหยุดยาว 7 วันดังนั้น 7 วัน ก็จะแน่นอนมากขึ้น ระดับหนึ่งที่เรา
จะพอประเมินได้ว่า มันได้ผลแค่ไหนอันนี้ก็คือคำตอบยาวมาก

พี่ว่าเวลาบางทีที่คนเขาถามคำถามนี้คือปัญหามันไม่ได้อยู่ในสิ่งที่เขาถามมันอยู่ที่อื่นมันไม่ได้อยู่ที่เรื่องเงิน มันอยู่ที่อย่างอื่น

” เหมือนบางคนจะกังวลหรือเปล่าว่า ลงโฆษณาไปแล้วขายไม่ได้ ต้องทำอย่างไรถึงขายได้ ต้องใช้งบกี่บาท
น่าจะมีส่วนที่กังวลเรื่องนี้ด้วย ” 

ก็คือ ถ้าบอกว่ากังวล คืออย่างไรสุดท้ายก็ต้องลอง แต่ว่า ถ้าคุณกังวลมาก ๆผมก็เดาว่า คุณเป็นคนที่งบไม่เยอะ ถ้างบไม่เยอะ
ก็ควรจะศึกษา ให้มันถี่ถ้วนก่อนแล้วค่อยเริ่มทำซึ่งก็ต้อง ลงทุนเวลาหาโน่นหานี่อ่านดูคลิปฟรีของเรา ดูให้หมดแล้วกัน ดูฟรี
ดูให้ครบทุกอัน แต่ถ้าบอกว่า งบน้อยแล้วยัง เวลาดูก็ไม่มีอีกบางที อันนี้พี่ก็เป็นนะแต่ก่อน พี่ก็เคยจนมาก่อน บางทีพี่ก็เชื่อว่า
มันต้องทำอย่างนี้เหมือนกันนะก็คือต้องเจ็บตัวก่อน จ่ายเงินไปเลย วันที่พี่ทำ Google Adwords วันแรกเลย กับมือ
พี่จำได้แม่นเลยพี่ขายของ โดยผ่านเว็บไซต์ Amazon ที่อเมริกาพี่เซ็ตโฆษณา Google เซ็ตไว้แล้วมันดึกมาก ก็เลยเผลอ
หลับแล้วก็สะดุ้งตื่นขึ้นมาออนตี 5 ก็คือเงิน ใช้ไปแล้ว 1,000 บาท แล้วตอนนั้นก็วูบเลยนะ1,000 บาทตอนนั้น สำหรับเรามัน
เยอะมากแค่ 6 ชั่วโมงจากประมาณ 5 ทุ่ม ถึงตี 5 และเราก็เจ็บตัวแล้วพอเจ็บตัวเราก็เริ่มโมโหมันแล้ว อยากจะเอาคืนก็เริ่ม
ศึกษา ลึกขึ้น ๆแล้วก็ค่อย ๆ เรียนรู้ แก้ปัญหาไป แต่ถ้าบางที ดูอยู่นั่นแหละ ๆสำหรับพี่ โดยส่วนตัว ถ้าดูมาก ๆไม่ได้เริ่มทำ
สักทีมันก็ไม่ได้ไปไหนสักทีเหมือนกัน ในมุมหนึ่งบางทีเราไปฟังมาก ๆถ้าสมมติฟังหลายคนนะบางทีโค้ชคนหนึ่ง ก็บอก
อย่างนี้บางคนก็บอกอย่างนั้น สุดท้ายเราฟังไปมาก ๆ ก็เหมือนไม่ได้ฟังก็เหมือนทุกอย่าง มันตีกันไปหมดแต่ว่าสุดท้าย
เราก็ต้องลองดูสักแนวทางหนึ่งแล้วก็เจออะไรก็ประยุกต์แก้ปัญหาเอาอย่างน้อยพี่ก็เชื่อว่า ฟังไว้เยอะกว่าถ้าฟังคนที่มีผล
งานมันก็เหมือนเราได้ กุญแจเก็บไว้ในตัวเพิ่มวันหนึ่ง เราไม่รู้ว่ากุญแจดอกไหน เราต้องได้ใช้ตอนไหนแต่มีไว้ก่อนบางทีมัน
ก็ถึงเวลามันก็ลอยขึ้นมาให้ใช้เองนึกได้อะไรอย่างนี้