วันนี้ผมจะมาลองดูคำถามเกี่ยวกับเรื่องการใช้งาน LINE@ ในพันทิปก็เสิร์ชเข้าไปใน Google เลยนะครับว่า  LINE@ Pantip
และผมก็เจอ กระทู้หนึ่งนะครับ เขียนว่า ” ใช้ LINE@ ได้ลูกค้า มากกว่า LINE ธรรมดายังไงบ้าง (สำหรับร้านค้าขายของ
ออนไลน์) 
บอกว่า “พอดีสมัคร LINE@ ไป แต่ฟังก์ชันเยอะมาก ยังงงๆอยู่ “  แปลว่า เขาสมัครไปแล้ว แต่ยังงงอยู่ เพราะ
ฟังก์ชันเยอะ ฟังก์ชันเยอะ ก็ถือเป็นเรื่องดีถูกไหมครับ  ” ปกติก็ซื้อของกับแม่ค้าผ่าน LINE ปกติ ไม่ต้อง LINE@” ก็หมาย
ความว่า ปกติเวลา เขาไปซื้อของ เขาก็ซื้อกับแม่ค้า แม่ค้าก็ใช้ LINE ปกตินี่ ไม่เห็นใช้ LINE@ เลย เขาก็เลยสงสัยว่า แล้ว
LINE@ จำเป็นต้องใช้ไหม ถ้าเขาจะทำธุรกิจ

1.อยากรู้ว่าร้านออนไลน์ที่ขายของใช้ประโยชน์จาก LINE@ ฟังก์ชันไหนมากที่สุด ? 

แปลง่าย ๆ ก็คือ ใช้ LINE@ ฟังก์ชันไหนใช้เยอะที่สุด เพราะว่ามันเยอะ ไม่รู้จะใช้อันไหนก่อน

2.ใช้แล้วได้ลูกค้าเยอะกว่าใช้ LINE ปกติไหม ?

3.ลูกค้าที่ติดต่อแม่ค้าผ่าน LINE@ รู้สึกยังไงบ้าง (มีอะไรน่าสนใจกว่าปกติไหม ? ) 

รู้สึกว่ามีอะไรเป็นพิเศษหรือเปล่า  เดี๋ยวเราลองดูคำตอบกันก่อนดีกว่า

ความเห็นที่ 1. เขาบอกว่า ” สำหรับผม LINE ธรรมดาดีกว่า เพราะว่ามีสติ๊กเกอร์ให้โหลด ให้ซื้อ และสามารถใช้บน PC
ได้ พิมพ์กับ
คีย์บอร์ด คุยกับลูกค้าง่ายดีครับ ส่วน LINE@ ไม่มีที่กล่าวมาครับ จึงทำให้ไม่สะดวก แต่ LINE@ มีดีที่ส่ง
ข้อความอัตนมัติได้เวลามี
ลูกค้าเพิ่มเป็นเพื่อน เช่น ส่งข้อความว่า สวัสดีครับ แบบอัตโนมัติ “  อันนี้ต้องบอกก่อนว่า
การตอบกระทู้นี้มันตั้งแต่ปี พ.ศ. 2558 แล้ว ตอนนั้นก็อาจจะยังไม่มี หรือมีผมก็ยังไม่แน่ใจนะ ผมจำไม่ได้แล้ว มันหลายปีแล้ว
แต่เอาเป็นว่า ผมตอบอันนี้ก่อนนะครับ

เขาบอกว่า LINE ธรรมดาดีกว่า  เพราะว่ามีสติ๊กเกอร์ให้โหลด ให้ซื้อ จริง ๆ อันนี้ผมก็ยอมรับนะว่า LINE@ ที่ขัดใจผมอย่างหนึ่ง
เลยก็คือ ซื้อสติ๊กเกอร์ตะมุตะมิเหมือน LINE ปกติไม่ได้ เราเอาไว้ตะมุตะมิกับลูกค้าไม่ได้ นะครับ ซึ่งเรื่องพวกนี้มันก็ช่วยนะ บาง
ทีลูกค้าต่อราคา เราส่งสติ๊กเกอร์น่ารัก ๆ อ้อน ๆ ไปหน่อย หรือว่า ลูกค้ายังไม่ซื้อสักที ยังไม่โอนเงินสักที ส่งสติ๊กเกอร์น่ารักไป
นะครับ ก็สร้าง engagement ได้ว่าอย่างนั้น เถอะ LINE@ ยังทำไม่ได้

ณ ปี 2561 นี้ใช้ได้แต่ตัวหมีบราวน์แล้วก็ตัวแซลลี่ ตัวอะไรปกติ แล้วก็เพราะ LINE ปกติ สามารถใช้บน PC ได้แต่ LINE@
ใช้ไม่ได้ เขาว่าอย่างนั้นนะครับ

ทุกวันนี้ LINE@ ใช้บน PC ได้แล้ว พิมพ์ด้วยคีย์บอร์ดก็ได้เหมือนกันนะครับ LINE@ มีเวอร์ชัน PC แล้วนั่งเฝ้าอยู่หน้าจอ
คอมพิวเตอร์ก็ดูแลลูกค้าได้เหมือนกันอย่างที่เขาว่า LINE@ สามารถส่งข้อความ “สวัสดีครับ” Broadcast ข้อความไปหาทุกคน
ได้พร้อมกันนะครับ อันนี้ก็ถูกต้องแล้วแล้วก็ ตั้งข้อความอัตโนมัติได้ เช่นเขาทักมา เราจะมีข้อความต้อนรับว่าอะไรเช่น ช่วงนี้มีโปรโมชัน
นะครับหรือว่า ช่วงนี้ร้านเรามี ไฮไลท์อะไรใหม่ ๆ มี product ใหม่ นะครับเราตั้งข้อความอัตโนมัติไว้ได้ เขาทักมา ดึกดื่นเที่ยงคืน
ตี 3 ตี 4 อย่างไร ก็จะมีข้อความนี้คอยตอบให้อันนี้ความเห็นที่ 1 จบนะครับ

ความเห็นที่ 2 เขาบอกว่า ” LINE ธรรมดาดีกว่า ถ้าใช้ในการโต้ตอบที่ดี และได้ประสิทธิภาพมากกว่า ” 
” LINE@ ผมไม่แน่ใจว่า จะมีใครเห็นเหมือนผมหรือเปล่า คือ ระบบการเตือน  เวลามีข้อความเข้า แย่มากๆ ลูกค้าส่งข้อความ
มาตอน 9 โมงเช้า ระบบแจ้งเตือนตอนบ่าย 3 บางทีก็เตือนข้ามวัน ” 
 เขาบ่นเรื่องการเตือนนะครับต้องบอกว่าจริง ๆ ผมก็มีปัญหา
นี้เหมือนกัน ณ ปี 2561 ระบบแจ้งเตือน เท่าที่ผมใช้อยู่นะครับก็ยังมีติด ๆ ดับ ๆ บ้างซึ่งกลายเป็นว่า เราพึ่งพาระบบแจ้งเตือน มากไม่ได้
ณ กลางปี 2561 นี้นะครับสิ่งที่ดีที่สุด คือ  คุณควรเข้าไปเช็ค ใน LINE@ เป็นระยะและจากประสบการณ์ผม บางทีถ้าเข้าไปเช็คใน
คอมพิวเตอร์ข้อความจะมาไม่หมดนะครับ

ในกรณีที่บางทีคุณมีหลายคนที่ดู account เดียวกันแล้วบางคนเปิดจากโทรศัพท์มือถือบางคนเปิดจากเครื่องที่สอง เครื่องที่สาม
บางคนเปิดจากคอมพิวเตอร์ ในคอมพิวเตอร์ มันจะมีบางข้อความหายไปเฉย ๆ มองไม่เห็น แต่ว่าถ้าในมือถือข้อความจะขึ้น 100%
ไม่มีตกหล่น ดังนั้นใช้โทรศัพท์มือถือ ชัวร์ที่สุดสำหรับ LINE@

แล้วก็เรื่องระบบแจ้งเตือน ยังได้ไม่ได้ ก็ยัง งง ๆ อยู่เหมือนกันนะครับ ดังนั้น เดี๋ยวผมจะไปลองถาม LINE@ ให้ตรงนี้มีแผน
ในการปรับปรุง อะไรอย่างไรเดี๋ยวมีโอกาสมาแชร์กันอันนี้ก็เป็นเรื่องจริงนะ ก็ต้องหมั่นดูดี ๆ เขาก็บอกต่อว่า ” LINE@ ข้อดีที่เห็นตอนนี้คือ
สามารถส่งข้อความกระจายได้ดีกว่าการโพสต์ในไทม์ไลน์  มีให้ใช้ส่งฟรี 1,000 ข้อความต่อเดือน ก็ถือว่าไม่เลว หากต้องการ
เพิ่มก็ซื้อแพ็คเก็จ  ซึ่งผมไม่ค่อยสนใจเท่าไหร่ เพราะระบบการเเจ้งเตือนข้อความห่วยมาก ถ้าจะใช้ติดต่อ 2 ทาง ไม่น่าจะ
สะดวก ”  
ถ้าเกิดว่าคุณมี LINE@ อันหนึ่ง มี LINE อันหนึ่ง

อันนี้มันก็จะ งง ๆ นะครับเวลาทำ ตอนแรก ๆ อาจจะเป็นอย่างนั้นได้ เวลาเปลี่ยนผ่าน อะไรอย่างนี้ แต่ว่าถ้าสุดท้ายไปใช้ LINE@
แล้วก็ควรจะใช้ LINE@ อย่างเดียวเป็นหลัก จะดีกว่านะครับ ยกเว้นแต่เป็นลูกค้า ที่ VIP จริง ๆจะให้ add LINE ส่วนตัวเลย
อันนั้นก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งนะครับ

แต่อันนี้เขาบอกว่า ส่งข้อความได้ 1,000 ข้อความต่อเดือน ฟรี broadcast message เหมือนส่งSMS 1,000 ข้อความต่อเดือน ฟรี !
อันนี้ก็เป็นเรื่องจริงนะครับแนะนำให้ใช้นะครับ ก็ถือว่าเป็นเรื่องดี เรื่องซื้อแพ็กเกจ ไม่ค่อยสนใจ เพราะระบบแจ้งเตือนห่วยอันนี้ก็คือ
มันไม่เกี่ยวกันนะแต่ว่ามันเป็นเหตุผลของเขานะครับก็ว่ากันไป แต่ว่าจริง ๆ ถามว่าคนที่จะต้องซื้อแพ็กเกจ คือคนแบบไหนก็คือคนที่
broadcast ข้อความนี้ แล้วขายของได้เยอะซึ่งก็มีคนที่เป็นอย่างนี้บางคนขายได้เป็นหลักแสน หลักล้านด้วยซ้ำไป จาก LINE@
ด้วยการส่งข้อความเพราะว่าคุณคิดดูว่าคุณทำไปเรื่อย ๆ วันแรกคุณมีคนตาม 10 คนผ่านไป 3 ปีคุณมีคนตาม 30,000 คน ผ่านไป 3 ปี
คุณมีคนตาม 30,000 คน คุณส่งข้อความโปรโมชันทีเดียว คุณส่งข้อความโปรโมชันทีเดียวคนได้รับ 30,000 คน ซื้อสัก 1% ก็คือ 300 คน
300 คน ซื้อของสัก 1,000 บาท ก็เป็นเท่าไรแล้ว คูณไปนะครับ มันคุ้มกับการที่ซื้อแพ็กเกจ broadcast เดือนหนึ่ง 1,000-2,000 บาท
7,000 บาท ยังคุ้มเลยนะครับสำหรับบางราย

สำหรับผมเอง ผมก็ซื้อแพ็กเกจประมาณ 2,000 บาท ใช้อยู่นะครับสำหรับบางธุรกิจ บางธุรกิจก็ซื้อตัวโปรพลัสเลย ตัวสูงสุดนะครับ
7,000 บาท อันนี้ก็ใช้แบบเต็ม steam นะครับอันนี้ก็แล้วแต่นะครับ เข้าไปดูแพ็กเกจได้ว่า แบบไหนเหมาะกับคุณถ้ายังไม่แน่ใจ ก็ลอง
ใช้ฟรีไปก่อนก็ได้ อันนี้ก็คือความเห็นต่อมานะครับ

ในความเห็นผมบ้างแล้วกัน ตอบคำถามของคนที่ถามอันนี้นะครับ

1.อยากรู้ว่าร้านออนไลน์ที่ขายของใช้ประโยชน์จาก LINE@ ฟังก์ชันไหนมากที่สุด ? 

ซึ่งถ้าถามผม ก็ต้องบอกว่า มันแล้วแต่นะ คือมันมีหลายฟังก์ชันยิบย่อย แต่ว่าฟีเจอร์ที่เด่นที่สุด
สำหรับคนที่มาเรียนกับผม แล้วก็เป็นลูกค้าที่ผมแนะนำให้ใช้ก็คือตัว broadcast ก็ตัวนี้เป็นตัวที่ กระตุ้นการขายได้ดีที่สุดนะครับ ส่ง
ข้อความไปหาตอนที่เขามาติดตามเราแล้วเป็นลูกค้าเก่า ซื้อซ้ำ บอกต่อ อะไรอย่างนี้มันสามารถที่จะเพิ่มยอดขายได้ดีแล้วฟังก์ชันอื่น ๆ
ก็ต้องใช้เหมือนกัน แล้วแต่ธุรกิจแต่ใช้บ่อยที่สุดคือ broadcast

2.ใช้แล้วได้ลูกค้าเยอะกว่าใช้ LINE ปกติไหม ?

ก็ต้องบอกว่า เอาจริง ๆ มันไม่เกี่ยวหรอกว่าจะใช้  LINE@ หรือ LINE
มันแค่เป็น เครื่องมือทุ่นแรงของคุณเฉย ๆ แล้วก็มันอยู่ที่กลยุทธ์ด้วยแต่ว่า บางกลยุทธ์ ที่คุณอยากจะทำ LINE เฉย ๆ มันทำไม่ได้เช่น
คุณจะส่งข้อความทีเดียวหาทุกคน LINE เฉย ๆ ทำไม่ได้คุณจะทำระบบสะสมแต้มให้ลูกค้าเก่าซื้อ แล้วกลับมาซื้อซ้ำ คุณทำไม่ได้คุณ
จะแจก e-couponใน LINE ปกติ คุณทำไม่ได้คำถามคือ คุณจะทำหรือเปล่า ถ้าคุณจะทำ คุณต้องใช้ LINE@ซึ่งถ้าทำ โดยมากก็จะ
ได้ลูกค้าเยอะขึ้นรวมถึงตั้งข้อความอัตโนมัติอย่างที่ผมบอก เป็น call center LINE ปกติก็ทำไม่ได้บริหารจัดการ คนใช้งานให้คนเข้ามาดู
มาช่วยตอบ LINE ปกติก็ทำไม่ได้ถ้าคุณตอบอยู่คนเดียวแล้วลูกค้าคุณเยอะ แล้วคุณตอบไม่ทันแล้วคุณเอาใครมาช่วยตอบไม่ได้ลูกค้าคุณ
ก็จะได้น้อยกว่าตอนที่คุณมีคนมาช่วยกันตอบกันทัน

ดังนั้น ก็เกี่ยวกับเรื่องอื่่น ๆ แบบนี้ด้วยนะครับ ถามว่า ถ้าจะต้อง grow ธุรกิจต้องทำให้มันเติบโตขึ้น LINE@ ก็ถือว่า จำเป็นมากนะครับ
ย้ำว่าจำเป็นมาก แล้วก็คำถามสุดท้ายคือ

3.ลูกค้าที่ติดต่อแม่ค้าผ่าน LINE@ รู้สึกยังไงบ้าง (มีอะไรน่าสนใจกว่าปกติไหม ? ) 

อันนี้จริง ๆ ลูกค้านี้ ผมก็พูดแทนเขาไม่ได้นะ เพราะว่าจริง ๆ ผมเป็น Marketer นะครับ
mindset ของผมก็จะไม่เหมือน คนใช้งานทั่วไป

ถามว่ามันจะต่างกันตรงไหน ผมก็นึกไม่ค่อยออกนะ ก็คงต่างกันแค่ ตอน add ต้องใส่ @ ไปด้วย หน้า ID อันที่สองก็คือ สติ๊กเกอร์น้อยกว่า
มันก็อยู่ที่ว่า จะซีเรียสกันขนาดไหน แต่ว่า LINE ส่วนตัวมันก็ได้ความเป็น personal กว่าส่วน LINE@ มันก็จะดูเป็นทางการ ในขณะ
เดียวกัน ก็ทำเป็น personal ได้ ถ้าเกิดว่า คนเฝ้า LINE@ ตอบเร็ว ตอบทัน ซึ่งการตอบเร็ว ตอบทัน บางที ถ้าตอบด้วยมือ มันตอบไม่ทัน
ก็มีตั้งข้อความอัตโนมัติ

ดังนั้น ก็บอกไม่ได้หรอก ว่าลูกค้ารู้สึกอย่างไร ต่างกันอย่างไร แต่มันอยู่ที่ การบริหารจัดการของเราด้วย ว่าเราจะทำให้เขา รู้สึกอย่างไร
จากการใช้ LINE@ ซึ่งมันมีเครื่องมือช่วยเยอะกว่า

สำหรับคลิปนี้ ก็ประมาณนี้นะครับ สำหรับคำถามที่ว่า

” ใช้ LINE@ ได้ลูกค้าเยอะกว่า LINE ธรรมดายังไงบ้าง ?

หัวข้อกระทู้ อาจจะไม่ครอบคลุม คำถามทั้งหมด แต่ผมก็ขยายความให้ฟังหมดแล้ว
ถ้ามีคำถาม สงสัยตรงไหน คอมเมนต์ถามได้ หรือว่ามีอะไร ต้องการแลกเปลี่ยน ยินดีนะครับ คอมเมนต์ใต้คลิปได้เลย ขอบคุณที่ติดตาม
นะครับ อย่าลืม กดไลค์ กดแชร์ กดคอมเมนต์ กด subscribe Youtube / Facebook ติดตาม LINE@ แล้วก็ตามใน
blog www.pakorn.in.th ของผมได้นะครับ

ขอให้ขายของออนไลน์ ทำการตลาดให้สนุกนะครับ สวัสดีครับ ^^