จากประสบการณ์ที่ให้บริการลูกค้ามา ผมและทีมงานได้รับคำถามนี้จากผู้ประกอบการ และฝ่ายการตลาดบ่อยมากว่า

จะ ทำ Adwords ใช้ Facebook Fan Page แทนเว็บไซต์ได้หรือไม่??

คำตอบคือ “สามารถใช้ได้” ไม่ได้ผิดกฎกติกาของ Google และ Facebook แต่อย่างใด

ถึงแม้ว่าการใช้ Facebook Fan Page จะทำง่าย ทำฟรี อัพเดตข้อมูลได้สะดวกก็ตามที…

แต่ผมแนะนำว่า “ไม่แนะนำให้ใช้ Facebook Fan Page เป็น Landing Page” ด้วยเหตุผลต่อไปนี้

1. Control Message ยาก

(คลิกอ่าน 9 เหตุผลที่ทำ Adwords ไม่ประสบความสำเร็จ)

ในการทำ Landing Page ที่ดีที่สามารถทำ conversion ให้เราได้อย่างต่อเนื่องนั้น ใน Landing Page จำเป็นต้องมี element หรือส่วนประกอบต่างๆ ที่ช่วย convince หรือโน้มน้าวลูกค้าได้เป็นอย่างดี

เช่นเราอาจจะพาดหัวให้ตื่นเต้น มี story ที่อาจจะเป็น pain ของลูกค้ากลุ่มเป้าหมาย จากนั้นก็บอกประโยชน์สรรพคุณที่เป็น solution หรือทางแก้ปัญหาด้วยสินค้า หรือบริการของเรา ตามด้วยตัวอย่างลูกค้าที่ซื้อสินค้า (Testimonial หรือ Reference) และตบท้ายด้วยราคา และขีดคร่าตัวราคา พร้อมบอกโปรโมชั่น เพื่อให้ตื่นตาตื่นใจ ตามด้วยปุ่ม หรือฟอร์มกรอกข้อมูล หรือเบอร์โทรใหญ่ๆ เพื่อให้ตัดสินใจซื้อได้ในทันที

ผมขออนุญาตินำ Landing Page ของ คอนโด Garden Asoke – RAMA 9 ของ AQ Estate มาเป็นตัวอย่างให้ดูครับ ผมคิดว่าเจ้านี้ทำ Landing Page ได้ดีมากๆ เชื่อว่าต้องทำ Conversion ได้อย่างถล่มทลายแน่นอนครับ 🙂

ปล. ผมไม่ได้รู้จักกับบริษัท และผู้ให้บริการนะครับ 

Landing Page ที่ดี

สวยใช่มั๊ยครับ จะเห็นว่า Landing Page อันนี้อ่านง่าย จัดเรียงเนื้อหาตามความสนใจ ของคนที่จะซื้อคอนโด ได้ดีทีเดียว แถมหัวข้อก็พาดได้น่าตื่นเต้นไม่เบา

แต่ถ้าเราใช้ FB สิ่งที่จะเกิดขึ้นคือ โพสเราก็ไหลไปเรื่อยๆ เกิด post บนๆ เป็นโพสไม่น่าสนใจ คนก็คลิกออกไปทันที Message ที่คนจะเห็นส่วนใหญ่ก็จะอยู่ใน Cover photo และโพสแรกๆเท่านั้น ซึ่งไม่เพียงพอที่คนจะตัดสินใจ ที่สำคัญหาข้อมูลที่อยากทราบยากมาก เช่นอยากทราบว่าขายสินค้าอะไรบ้าง สินค้ามีแบบไหน สีใดบ้าง ราคาเท่าไหร่บ้าง โปรโมชั่นตอนนี้คืออะไร มีลูกค้าเคยซื้อไปแล้วบ้างหรือไม่ บริษัทตั้งอยู่ที่ไหน น่าเชื่อถือหรือไม่ ค่าจัดส่งเท่าไหร่ เงื่อนไขการชำระเงินเป็นอย่างไร  จะเห็นว่าถ้าเป็นเว็บไซต์เราสามารถกดตามเมนูเพื่อให้ได้ข้อมูลที่เราสนใจ ดังนั้นการควบคุม Message บน Facebook จะยากกว่า

2. quality score จะต่ำกว่าเว็บไซต์มาก 

การที่เราจะทำให้ Quality Score ดีนั้น ปัจจัยสำคัญอย่างยิ่งคือตัว Landing Page ซึ่ง Facebook มักจะทำได้ไม่ดี เพราะ เรา control keyword, h1, h2, title อะไรยากมาก ซึ่งพอ Quality Score ต่ำ สิ่งที่จะตามมาคือข้อ 3

(คลิกอ่านวิธี ทำอย่างไรให้ค่าคลิก Google ถูกที่สุด)


3. ค่าคลิกแพงกว่าทำเว็บดีๆ 2-10 เท่า..

การที่ Quality Score ต่างกัน จะทำให้ค่าคลิกแพงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งถ้าเราทำโฆษณาโดยที่ค่าคลิกแพงกว่าเจ้าอื่นๆขนาดนี้ เราจะเสียเปรียบเจ้าอื่นๆเป็นอย่างมาก

(คลิกอ่านวิธี ทำอย่างไรให้ค่าคลิก Google ถูกที่สุด)

4. ทำ Remarketing ไม่ได้

การทำ Adwords ไม่ว่าจะเป็น Search Advertising (SEM) หรือโฆษณาแบบผลการค้นหา, Google Display Network หรือโฆษณา Youtube แล้วไม่ทำโฆษณาแบบ Remarketing เข้าไปด้วย ถือว่าคุณพลาดพลั้งโอกาสทั้งในการสร้าง Brand Awareness และ Conversion เป็นอย่างยิ่ง!

(คลิกอ่าน 9 เหตุผลที่ทำ Google Adwords ไม่ประสบความสำเร็จ)

 

5. ทำ Conversion Tracking / ติด Google Analytics ไม่ได้

การไม่ทำ Conversion Tracking หรือติด Google Analytics นั้น ก็เหมือนทำโฆษณาแบบคนตาบอด เราจะไม่มีทางรู้เลยว่าโฆษณาตัวไหน ได้ผล หรือไม่ได้ผล เราจะได้แต่เดา หรือมโนเพียงอย่างเดียว

แต่ถ้าเราทำ Conversion Tracking / Google Analytics เราจะมั่นใจ ได้สถิติที่จับต้องได้ว่าโฆษณาแบบใด ที่ได้ผลดีมากที่สุด และโฆษณาตัวใดที่ควรจะปรับปรุง หรือตัดออก

(คลิกอ่าน เหตุผลที่ต้องทำ Online Measurement)

 

เป็นอย่างไรบ้างครับ เหตุผล 5 ข้อนี้ เพียงพอให้ทุกท่านยอมเหนื่อยออกแรง หรือลงทุนทำ Adwords ด้วย Landing Page ดีๆบนเว็บไซต์ ขึ้นมาแทน Facebook Fan Page หรือไม่ครับ ^^

แนะนำเพิ่มเติมสำหรับท่านที่คิดจะเริ่มทำ Landing Page ขึ้นมา ก่อนอื่นให้ลองวิเคราะห์ Keyword ที่เราต้องการลงโฆษณาก่อน พยายามจัดหมวดหมู่ให้เป็นกลุ่มเป็นก้อน แล้วดูว่า Keyword กลุ่มไหนที่มีปริมาณการค้นหาเยอะ ค่อยเริ่มทำ Landing Page จากกลุ่มนั้นก็ได้ครับ (จะได้ประโยชน์สูงสุด)