คำถามคือว่า สมมติสินค้า 50 บาท 100 บาท 300 บาท 200-300 บาท ด้วยซ้ำถ้าราคาขายมันต่ำ ลงโฆษณาไม่คุ้ม จะทำยังไงดี
ใช่เลย ต้องบอกว่า ถ้าของราคาต่ำอย่างแรก กำไรมันก็จะน้อยอยู่แล้วของ 50 บาท กำไรมันจะเท่าไรสมมติสุด ๆ เลย กำไร
40 บาท คือมันก็ยังมี gap เหลือแค่ 40 บาท ในการยิงโฆษณาว่าต้องยิง 20 บาท ต้องขายได้ 1 ออเดอร์แล้วนะซึ่งมันยาก
ที่จะทำได้อย่างนั้นก็เคยมีทั้งลูกค้า และลูกศิษย์แบบนี้มาเรียนนะ คำแนะนำก็คือเราต้องพยายาม หาเรื่องแพ็คให้มันใหญ่ขึ้น
จริงๆถามว่า คนที่เขาซื้อ ซื้ออออนไลน์ ถ้าเขาจะซื้อพริก เขาคงไม่อยากซื้อ 1 ถุง เพราะเขาไม่อยากเสียค่าส่ง สมมุตเราทำ
ขึ้นมาเป็นแพค เป็นโหล แล้วก็ลดหน่อยนึง 10 % อะไรอย่างนี้ สมมุตแพคหนึ่ง 50 บาท ขายเป็นเซต 1 โหล 12 อัน 12×5 = 60
ก็ 600บาท แล้ว ซื้อ 1 โหล ลด 5% อะไรอย่างนี้ มันก็เหลือ 500 บาทกว่าๆปลายๆ แบบนี้มันก็เริ่มมีความคุ้มค่าในการที่เรา
จะขาย เพื่อให้มันโฆษณา แล้วมันได้กำไรได้แล้ว อันนี้คือคำแนะนำ

ยกตัวอย่างเช่นแต่ก่อนมีแบรนด์ใหญ่ มาโฆษณากับพี่ก็คือ ขายไข่ไก่ ขายไข่ไก่ ขายแพ็คหนึ่ง ยังไม่กี่บาทเลยเราก็ใช้วิธี
อย่างนี้แหละ ก็คือ ขายชิ้นละ 3 แพ็คแล้วก็ลด นิดหนึ่งหรือว่า ถ้าเป็นของที่จัดเซ็ต รวมกันกับอย่างอื่นได้เอามาผสมกัน
อะไรอย่างนี้ก็ทำให้มันเป็น volume ใหญ่ขึ้นมาใหญ่ที่ว่าก็คือ หลักหลายร้อย หรือหลักพันก็ใช้วิธีแบบนี้ก็อย่างที่พี่เป็ดว่า
บางทีเราอยากซื้อน็อตสักตัวหนึ่งหรืออะไรสักอย่างหนึ่ง 20-30 บาทแต่ว่า เราหาซื้อแถวนี้ไม่ได้แล้วสมมติ เราต้องซื้อ
ของ 20 บาท แต่ค่าส่ง 60 บาท แต่ถ้าเราขับไปเอง ไปกลับ 100 บาท เสียเวลา 2-3 ชั่วโมงค่าส่ง  60 บาท เราก็ยอม
แม้ว่าของราคา 20 บาท แต่อันนี้คนละเรื่อง กับเรื่องซื้อโฆษณา ดังนั้น ก็ต้องพยายามจัดเซ็ตแล้วก็ขาย ให้เซ็ตใหญ่

” เหมือนเราต้องวางแผน กลยุทธ์ของเราด้วยว่า อย่างเช่นไข่ไก่ ที่พี่เบิร์ดบอก คือคนทั่วไปเขาเดินไปซื้อ
ที่ร้านค้าก็ได้ 1 แพค 2 แพค เราก็ต้องจัดโปรโมชั่น  หรือทำให้คนซื้อรู้สึกว่า ถ้าสั่งซื้อกับเพจ มันคุ้มค่า
มากกว่าเดินไปซื้อหน้าปากซอยบ้าน มันก็อยู่ที่วิธีนี้ด้วย ” 

” แล้วอย่างครีมยี่ห้อดัง ที่ขายซองละ 20 บาท ขายตามร้านสะดวกซื้อ ครีมยี่ห้อดังในโฆษณาทีวี
ครีมแค่ราคา 20 บาท แต่ลงทุนโฆษณาเป็นล้าน อันนั้น เขาก็ยังขายได้ “

ครีม 20 บาท ขายตามร้าน 7-11 แล้วลงทุนโฆษณาเยอะ ๆ แล้วขายได้อันนั้นเขาเรียกว่า Distribution channel
คือช่องทางกระจายสินค้ามันเยอะคนเข้า 7-11 ทุกวัน มีเป็นหมื่นสาขาเขาแค่ จำแบรนด์นี้ได้แล้วมันมีอยู่ตรงนั้น 50 บาท
มีอยู่เป็น 10 แบรนด์แต่เขาจำแบรนด์นี้ได้เขาก็เลือกแบรนด์นี้ เพราะเขาเข้าทุกวันอยู่แล้วมันก็เลยขายได้จริง ๆ พี่ว่าอันนี้
ถ้าพูดภาพใหญ่หน่อยมันเริ่มจะเกี่ยวกันแล้วสมมติเราขายไข่ไก่ออนไลน์แล้วเราเป็นร้านเล็ก ๆ อยู่ตรงไหนก็ไม่รู้ของ
กรุงเทพฯ แล้วเราบอก เราจะขายทั้งกรุงเทพจริง ๆ เดี๋ยวนี้แบรนด์ใหญ่ ๆ แบบโลตัส  7-11 อะไรพวกนี้เขาก็เริ่มแล้ว
เขาก็เริ่มทำออนไลน์กันคือที่ สหรัฐอเมริกา การสั่งของออนไลน์ ของสดสั่งผัก สั่งไข่ไก่ หมู เห็ด เป็ด ไก่ อย่างนี้คือเป็น
เรื่องปกติมานานมากแล้ว 5-10 ปีแล้วสั่งของสดมากิน ที่จีนก็เป็นอย่างนี้หมดแล้วแต่ว่าที่ไทย พี่ว่ายังไม่ถึงขั้นนั้นแต่
ก็คงไม่ช้า ในไม่ช้า

ดังนั้นพูดให้ชัดก็คือ เราเสียเปรียบถ้าทำพร้อมกับ 7-11 อย่างนี้นะ เราก็เสียเปรียบอยู่แล้วเพราะว่า เขามีประมาณ 10,000
สาขา เขาเอาสาขาใกล้บ้าน ไปส่งได้พิซซ่า KFC พวกนี้ถึงส่งให้ได้ไง เพราะว่า มีสาขาอยู่ทั่วไปหมดแล้ว

ดังนั้น ถ้าเราไปเล่นเกมเดียวกันคือเราอยู่หลืบไหนของกรุงเทพฯแล้วเราขายทั้งกรุงเทพฯถ้าถึงวันนั้นเขาทำกันหมด
เราก็เสียเปรียบแล้ว ไม่ค่อยคุ้มแล้วก็ในแง่ลูกค้าเขาก็ สั่งแล้วค่าส่ง 100 บาท เขาเดินไปซื้อข้างหน้าดีกว่าสรุปแล้วก็คือ
ถ้าเราเป็นอย่างนั้นเราอาจจะใช้ออนไลน์ แค่ขายคนรอบ ๆ รัศมีร้านเราให้มันได้ เต็มที่มากกว่าเดิมอย่างน้อยต้องมองว่า
แถวนั้นมีหลายร้านที่เหมือนเราแต่ถ้าเราใช้ออนไลน์ เราได้เปรียบร้านแถวนั้นแต่ถ้าเราอยู่แถวนั้น แล้วไปขายแถวอื่น
อย่างนี้เราใช้ออนไลน์ก็จริง แต่เราเสียเปรียบร้านที่ไม่ใช้ออนไลน์ แต่ร้านเขาอยู่ตรงนั้นยกเว้นแต่ของคุณ เป็นอะไร
ที่พิเศษมากสมมติ คุณขายทุเรียนพันธุ์หายากอย่างนี้ เขาอาจจะยอมเสียค่าส่งแล้วก็ยอมซื้อไกล เพราะหาซื้อแถวบ้าน
ไม่ได้มันก็เป็นอย่างนี้

“อย่างตอนนั้น หนูก็แนะนำ เขาขายพวกเครื่องปรุง เขาจะขายปลีก แต่ไม่คุ้ม หนูก็บอกให้ทำเป็นขายส่ง”

อีกอย่างหนึ่งก็คือ ขายส่งพีี่ก็ไม่รู้ว่าสินค้าจริง ๆ เป็นอะไรกันแน่นะ สมมติว่าเราสามารถ ขายไปแล้วเดี๋ยวในอนาคต
ร้านนี้เขาซื้อซ้ำ ๆ ได้สมมติเป็นร้านอาหาร แล้วเราขายน้ำพริกแล้วเขาซื้อเราซ้ำ ๆ ได้ถ้าเกิดว่าทำอย่างนั้นได้มันก็
ได้ยอดขาย ระยะยาวอย่างนี้มันก็จะคุ้มก็นั่นแหละ ทำเป็นขายส่งลองบอกลักษณะ ซองที่เขาขายหน่อย

” ซองพริกน้ำปลา แบบเวลาไปกินก๋วยเตี๋ยว เวลาซื้อกลับบ้านแล้วเขาแถมเครื่องปรุงพวกนั้น
พริกน้ำปลา น้ำส้ม “

คือสมมตินะ ถ้าเป็นซองอย่างนี้ แบบนั้น ไม่มีใครซื้อปลีกกันหรอกมันไม่มีใครซื้อซองหนึ่ง ไปฉีกกินกับข้าวกล่องโฟม
ดังนั้นมันไม่เหมาะ จะมาขายปลีกแบบนั้นอยู่แล้วแต่สมมติเราลองคิดดูว่า สมมติว่ามันมี ธุรกิจ catering รับจัดเลี้ยง
แล้วเขาต้องไปเลี้ยง ไปส่งข้าวกล่องเป็น snack box สัมมนา อะไรอย่างนี้ เดี๋ยวนี้สัมมนาเยอะเขาเอาพวกนี้ไปส่งพี่
ก็ไม่รู้จะเป็นไปได้ไหมนะคือ เขาต้องมีพวกนี้ด้วยซึ่งใน Facebook เราไปหาคนอาชีพ ที่เกี่ยวกับ catering มันก็ทำ
ได้นะคือมันเลือกงาน เลือกอะไรพวกนี้ได้มีโอกาสที่จะไปเจอเขาได้สมมติถ้าเราไปเจอเขา แล้วเขาเอาไปใช้อยู่เรื่อยๆ
ก็อาจจะเป็นไปได้นะแต่ก็ไม่รู้ว่า ปกติเขาทำกันเองหรือเปล่าแต่มันก็ต้องอยู่ที่ ของเรามีแบรนด์หรือเปล่าคือถ้าเป็นถุง
ห่อพลาสติก ซื่อ ๆ ทื่อ ๆ เลยอย่างนั้นอย่างนั้นเขาก็ทำเองก็ได้แต่ถ้ามันมีแบรนด์ มีอะไรที่มันอร่อย เขาก็อาจจะต้องใช้

“ส่วนใหญ่เข้าแมคโคร แต่มันก็เสียเวลาที่เราไปเอง”

ก็นี่เห็นไหม เราบอกว่า ส่วนใหญ่เข้าแมคโครเรายิงไปหา คนที่สนใจแมคโครก็ได้ถ้าจะขายอะไรพวกนี้ ก็อย่างที่ว่าแหละ
กลุ่มเป้าหมายเราสนใจอะไรถ้ากลุ่มเป้าหมายเรา ปกติเขาไปซื้อแบบนี้ที่แมคโครเรายิงไปหาแมคโคร

” กลุ่มเป้าหมายมันเริ่มมาขึ้นเรื่อยๆ แล้วมันจะขายได้เเล้ว “

“แล้วสินค้าพวกข้าวสารที่หนูบอก ที่ว่ามันหนักๆ “

ข้าวสารนี่ ไม่เคยมีลูกค้ามาให้ทำสักทีหนึ่งก็เลยไม่แน่ใจแต่เข้าใจว่า อุปสรรคมันคือ ค่าส่งถูกไหม เพราะมันหนักคือพี่ไม่รู้ว่า
ค่าส่งมันเท่าไรคือมันต้องไปศึกษาก่อน ว่าค่าส่งเท่าไร ถ้าสมมติมันไม่คุ้ม ก็ต้องส่งเองทีนี้ส่งเอง มันจะเริ่มคุ้ม เวลาที่ลูกค้า
ในเส้นทางที่วิ่งไป มันเยอะถ้าสมมติเขาบอกว่าแบรนด์เขาดังแล้วเขาได้ลูกค้าตรงนี้เยอะ ๆ แล้วเขาวิ่งทีเดียว ผ่าน 50 หลัง
อะไรอย่างนี้ พี่ว่า คนที่จะทำได้ ต้องเป็นร้านออนไลน์ขายข้าวที่ใหญ่ที่สุด ในประเทศ ขายทุกแบรนด์แล้วขายอยู่คนเดียว
แล้วก็วิ่งทุกบ้านวิ่งแบบหนังสือพิมพ์เลยทำจนคุ้มว่าคิดค่าส่งน้อยมากหรือไม่ต้องคิดได้เลยก็ยังกำไรมาก