ยุคแห่ง online payment หมายถึงว่า เราสามารถที่จะจ่ายเงินร้านค้า โดยผ่านบัตรเครดิต ผ่านหน้าเว็บไซต์ ให้มันจบได้เลยโดยที่ไม่ต้องไปเปิดอีกเว็บไซต์หนึ่ง เพื่อเข้าแอพธนาคารหรือว่าเข้าเว็บไซต์ธนาคาร หรือออกไปโอนเงินอะไรแบบนี้สิ่งต่าง ๆ เหล่านี้มันกำลังเปลี่ยนไปสู่ยุค online payment แบบ 100%

ยกตัวอย่างไกลตัวหน่อย ก็คือที่จีนก็เป็น cash rate society หมดแล้วก็เป็นสังคมไร้เงินสดไปเรียบร้อยคนที่ไปแบบออฟไลน์ เอาแบงค์จ่าย เขามองหน้าแล้วที่จีนนี่เป็นขนาดนั้นเลย ผมไปต่างจังหวัดในไทยนะ ต่างจังหวัดหลาย ๆ ที่ในร้านอาหารเริ่มจะมีโปสเตอร์เกี่ยวกับเรื่องการจ่ายเงินออนไลน์ผ่านแอพ ผ่านอะไรต่าง ๆมากขึ้น ๆ เรื่อย ๆทีนี้สำหรับคนทำธุรกิจ มันช่วยอะไร เวลาที่ลูกค้า สามารถที่จะจ่ายเงินบนออนไลน์ จบได้เลย อย่างล่าสุดก็มีของ Kbank นี่แหละ ที่เขาไปผูกกับตัว 2C2P ถ้าผมจำชื่อไม่ผิดนะเป็น 3rd party ในการจ่ายเงิน  ที่ไปจับมือกับ Facebook สรุปง่าย ๆ คือเราสามารถ จ่ายเงินออนไลน์ผ่าน online payment ตรงนี้โดยที่สามารถทำได้ง่ายแล้วก็เริ่มมีอะไรมาจูงใจ

อย่างเช่นเราซื้อครบเท่านี้ จะได้เงิน voucher ไปสะสมนะครับได้ cashback เป็นเหมือนเงิน เอาไปซื้อของเพิ่ม 300 บาท 500 บาทในฐานะ saler ผู้ขายก็สามารถทำยอดได้นะครับทำยอดแล้วเขาก็มีคอมมิชชัน มีรางวัลจูงใจแถมให้เราเหมือนกัน ผมเชื่อว่าในไม่ช้า ทุกคนจะคุ้นชินกับการจ่ายเงินออนไลน์

แล้วมันดีกับ SME อย่างไร ก็คือ มันช่วยให้ลูกค้า โอนเงินง่ายขึ้นเพราะว่า ถ้าคนที่เขาอยู่ในภวังค์ อยากซื้อของแล้วระบบการจ่ายเงินมันไหลลื่นเทียบกับต้องออกไปโอนเงินเหมือนสมัยก่อน อย่างนั้นนะคือคนมันจะเกิดอาการ ตื่นจากภวังค์จากที่กำลังวู่วาม อยากจะได้ของเราก็เลิกวู่วามแล้ว ก็เลิกตื่นเต้นแล้วอาจจะแบบ ออกไปจากอารมณ์แล้ว ก็กลายเป็นไม่ได้ซื้อของเราแล้วมันจะมี drop rate ตรงนี้ เกิดขึ้นค่อนข้างเยอะพอสมควร

ที่ผมเคยคุยกับลูกศิษย์บางท่านบอกว่าเกิดขึ้นประมาณ 50% ได้เลยนะ drop rate เวลาเราปล่อยนให้คนไปโอนเงิน แล้วเงียบหายไปเฉย ๆ ไม่กลับมาอีกแต่ว่าถ้าเขากำลังดูของปุ๊บอยากได้ กดปุ๊บปั๊บ ๆ ถึงหน้าจ่ายตังค์ จ่ายไปเลยเผลอ ๆ ต่อไปมีให้ผ่อน 0% ผ่านทาง Facebook ได้เลยผมเชื่อว่าเป็นอย่างนั้นได้เลยนะครับ

สิ่งที่เกิดขึ้นก็คือ ยอดขายเราจะเยอะขึ้นนะครับ อัตราที่คน drop จะน้อยลงและที่สำคัญกว่านั้นก็คือเราจะไป integrate กับเรื่อง chatbot หรืออะไรที่ผมพูดมาก่อนหน้า ได้มากขึ้นผมอาจจะไม่ได้ลง detail ตรงนี้เยอะ แต่ว่าพูดไว้คร่าว ๆ ก่อนแล้วกันว่ามันจะไปผสมผสานกับเรื่องพวกนั้นได้และอีกข้อหนึ่งก็คือ มันจะไปผสมผสานกับเรื่อง การเก็บข้อมูลว่าลูกค้าคนไหนซื้อของเราแล้วและเอาข้อมูลตรงนั้น มาใช้ในการทำการตลาดซ้ำ

รวมถึงการวัดผล สถิติต่าง ๆจะแม่นยำมากขึ้นเพราะว่าปกติ เวลาเราทำการตลาดทุกวันนี้ เนื่องจากประเทศไทย เป็น social commerce นะครับเราซื้อของโดยที่ไม่ค่อยตัดตะกร้าจบในเว็บกันเหมือนเวลาเราซื้อใน Lazada อย่างนี้เวลาซื้อใน Lazada เราซื้อได้แต่ว่าเวลาเราซื้อกับ SME คนขายของพ่อค้าแม่ค้าหลาย ๆ คนยังไม่ยอมจ่ายเงินบนเว็บไซต์ นะครับต้องมาคุยกันใน LINE ก่อน

ดังนั้น มันทำให้การวัดผล จากการทำโฆษณามันมาจบถึงขั้น การทักเท่านั้นมันไม่จบถึงขั้นซื้อ มันไม่จบไปจนถึงขั้นซื้อ ดังนั้นเราก็ไม่รู้ว่าคนทักมา สุดท้ายเขาซื้อ หรือไม่ซื้อเป็นคนไหนอย่างไรบ้างนะครับคือมันพอจะดูเป็นสถิติคร่าว ๆ ได้แต่ว่ามันดูละเอียดไม่ได้

ดังนั้น ถ้าซื้อจนจบบนออนไลน์ได้เลยเราจะวัดผลได้ละเอียดขึ้นแล้วเราจะเอา audience หรือว่ากลุ่มเป้าหมายเหล่านั้นมาใช้ทำโฆษณา ทำการตลาดเพิ่มเติมได้