ทำไมผมถึงบอกว่ายุคนี้ เข้าสู่ยุค O2O อย่างแท้จริง เพราะว่าจากที่ผมเห็น ผมไปเที่ยว จ.กาญจนบุรีไปตรงตลาดใกล้ตรงสะพานข้ามแม่น้ำแคว ก็มีแม่ค้าขายเสื้อผ้าอยู่ตรงแผงผมเห็นเขาในขณะที่เขาขายเสื้อผ้า อยู่ตรงแผงเล็ก ๆซึ่ง ไม่มีคนเดินเลย เงียบมากเพราะว่าผมไปวันจันทร์ เป็นวันทำงานก็ไม่ค่อยมีนักท่องเที่ยวเท่าไร

ผมก็เห็นเขาโพสต์ ใน Facebook ขายของอยู่กำลังลงสินค้ากำลังลงอะไรอยู่ ผมเชื่อว่า หลาย ๆ คนที่ชอบเดินตลาด แบบตลาดนัดง่าย ๆ ขายเสื้อผ้า เราจะเห็นแม่ค้าที่เปิดแผงอยู่ตรงนั้นแล้วก็ไลฟ์สด ขายของใน Facebook ไปด้วยแล้วหลาย ๆ คน ก็ขายใน Facebook live แบบนั้นแบบแม่ค้าแม่ค้า ขายตามพวก Facebook group บางคนก็ขายดีกว่าเปิดแผงอีก แสดงให้เห็นว่า เรากำลังเข้าสู่ยุค O2O ในระดับรากหญ้านะ ถ้ารากหญ้าเป็นอย่างนี้ ไม่ต้องห่วงว่าบริษัทใหญ่ ๆ จะเป็นอย่างไร

เดี๋ยวนี้ทุกอย่าง cross และเชื่อต่อถึงกันหมด เวลาคุณทำการตลาดออนไลน์คุณต้องดึงคนมาออฟไลน์ สำหรับบางธุรกิจ เวลาลูกค้าที่มาหน้าร้าน มาออฟไลน์ของคุณ คุณก็ต้องหาวิธีให้เขา ไปตามคุณในออนไลน์ต่อให้ได้ ผมยกตัวอย่างเช่น ร้านอาหาร แทนที่จะขายอาหารคนมากินที่ร้านอย่างเดียว นี่คือออฟไลน์ ตอนที่ทำเลตรงนั้น มันอาจจะเป็นช่วงที่ กลายเป็นทำเลไม่ดี ผมมีลูกศิษย์ท่านหนึ่ง ขายร้านอาหาร อยู่ตรงที่ที่หนึ่ง ที่เขาทำ BTS ก่อนที่จะทำ BTS เป็นที่ที่ทำเลดี พอทำ BTS มันกลายเป็นที่ที่รถติด

สิ่งที่เกิดขึ้นก็คือ ยอดคนมาหน้าร้านก็ตกดังนั้นสิ่งที่มันช่วยได้ก็คืออะไรก็คือ ทำการตลาดออนไลน์ทำการตลาดออนไลน์ เพื่อให้คนที่ไม่ได้ผ่านตรงนั้นเกิดความต้องการ และยอมรถติดมากินหรือว่ามาเวลาอื่นที่มันไม่รถติดอันนี้คือ เอาออนไลน์ ดึงมาออฟไลน์ในขณะเดียวกัน คนที่มาหน้าร้าน มาออฟไลน์เขาก็ต้องหาทางดึงลูกค้า ที่เขามาหน้าร้านแล้วให้ไปตามใน LINE@ หรือว่าไปตามในแฟนเพจหรือว่าไปแชร์ใน โซเชียลมีเดีย ของตัวลูกค้าเองก็จะทำให้จากออฟไลน์ มาสู่ออนไลน์ แล้วพอจากออนไลน์ มาสู่ออนไลน์เสร็จ เขาก็จะทำวนอยู่อย่างนี้อาจจะมี product line ใหม่ขึ้นมาเป็นเดลิเวอรีนี่ก็เป็นออนไลน์ทูออฟไลน์ ออฟไลน์ทูออนไลน์อีก

แต่ก่อนร้านอาหาร ผมคุยกับลูกศิษย์หลายท่านจะมีปญหาว่า บางทีจะยุ่งแค่บาง ช่วงเช่นช่วงเที่ยงช่วงเย็น แต่ชวงบ่าย เวลาเหลือ บ่ายสองถึงบ่ายสี่โมง เวลาเหลือ ถ้าเกิดว่าเขาขยายโมเดลเป็นเดลิเวอรีได้นะครับเขาสามารถเอา resource ตรงนี้ เวลาที่เหลือ ไปทำตรงนั้นได้ก็สามรถที่จะเพิ่มยอดได้โดยใช้ resource ประมาณเดิม หรือมากกว่าเดิมเล็กน้อย แต่ถ้ายุคก่อน ไม่มีออนไลน์จะทำเดลิเวอรี มันไม่หมูจะให้ลงโฆษณาทีวี มาโทรสั่งเหมือนแบรนด์ใหญ่ ๆ เขาทำ มันยากนะครับแต่ยุคนี้ สามารถที่จะทำได้

เดี๋ยวนี้ทีมงานของผม หลายคนพอจะถึงตอนกลางวันจะไลน์สั่งอาหารแล้วแล้วร้านที่สั่ง ก็จะเป็นป้า ๆ หน้าหมู่บ้านอย่างนี้แหละที่ไม่ได้ดูเก่งเทคโนโลยีอะไรเลย แต่ทุกคนก็ใช้ LINE เป็นก็ให้ add LINE กันมา แล้วก็สั่งอาหารกันก็เป็นการเพิ่มยอดได้นะครับร้านป้า ๆ แบบนี้ เขาอาจจะอยู่ทำเล แย่กว่าอีกคนหนึ่งคือร้านอาจจะอยู่ไกลกว่าแต่ว่า พอเขาเชื่อมคนออฟไลน์ มาบนออนไลน์ได้เขาก็สามารถที่จะอยู่ทำเลใกล้กว่าได้แล้ว เพราะมันอยู่ติดมือแล้วนี่ก็คืออยู่กันตรงมือถือแล้ว

ดังนั้นก็กลายเป็น จากทำเลที่ไม่ดี กลายเป็น ทำเลที่ดีได้ให้เรามองหา ว่าเราจะประสานสิ่งที่เรียกว่า offline to online กับธุรกิจเราได้อย่างไร