ผมได้มีโอกาสคุยกับเจ้าของธุรกิจไม่ว่าจะเป็นลูกค้า ลูกศิษย์มาจำนวนมากนะครับ สิ่งหนึ่งที่เจ้าของธุรกิจในยุคนี้ มีปัญหาเหมือนกันมากๆ ไม่ว่าจะธุรกิจเล็กกลางใหญ่ ก็คือเรื่องของคน คนที่มาทำงานให้เรา เป็นปัญหาที่ค่อนข้างประสบพบเจอในวงกว้างเลย เวลาที่เราทำการตลาด ทำโฆษณาไปแล้วธุรกิจเราเติบโตมากขึ้นเรื่อยๆ เป็นเรื่องปกติที่เราจะต้องหาจ้างวานบุคลากร เข้ามาช่วยงานในด้านต่างๆ ผมจะขอพูดเรื่อง Digital Marketing อย่างเดียวก็แล้วกันนะครับ

เราจะต้องมีคนยิงโฆษณา หรือว่า Advertiser เราจะต้องมี Graphic designer เราจะต้องมีแอดมินสำหรับตอบเพจ เราจะต้องมีแอดมิน ในการดูแลเว็บไซต์ ซึ่งบางครั้ง ก็เป็นคนละคนกับแอดมินที่ตอบเพจ หรือว่าเป็นคนละคนกับ Graphic designer เราจะต้องมีฝ่ายตัดต่อวิดีโอ ในการทำ video production เพราะทุกวันนี้ค่อนข้างสำคัญ เราจะต้องมีคนทำ SEO ให้ติดหน้าแรกของ Googleโดยที่ไม่ต้องจ่ายค่าโฆษณา เราจะต้องมีคนซื้อโฆษณาใน facebook เราจะต้องมีคนวิเคราะห์ สถิติใน Google Analytics เราจะต้องมีคนสร้าง Chatbot ขึ้นมารองรับการตอบลูกค้าในอนาคต เราจะต้องมีคนดูแล LINE@ เราจะต้องมีคนคิดคอนเทนต์ และวางแผนในการทำคอนเทนต์ เพื่อตอบโจทย์จุดประสงค์ทางการตลาด ของแต่ละแบรนด์

จะเห็นว่าเราต้องมีคนเยอะแยะมากมายเลย ที่จะทำการตลาดออนไลน์ให้เรา ซึ่งถามว่า ทั้งหมดนี้ คนๆเดียวที่เป็นเจ้าของ ผมจะบอกว่าเป็นไปได้ยากที่จะทำได้คนเดียว อย่างไรวันหนึ่ง คุณก็ต้องมีคนมาช่วย ทีนี้พอต้องมีคนมาช่วย มันก็มี 3 ทางเลือกใหญ่ ๆ

ทางเลือกที่ 1 คือ เราจ้าง in house จ้างพนักงานมาอยู่ในบริษัท แล้วเราก็ให้เงินเดือน เเล้วก็มี Scope งาน มี jop description แล้วก็ทำงานกันไป มี KPI มีสัญญาทำงานกันไป training แล้วก็วัดผลประเมินผล แล้วก็ให้คุณให้โทษกันไป อันนี้เป็น option ที่ 1 ผมจะไม่ลง Detail เรื่องนี้นะครับ

option ที่ 2 ก็คือ outsource บริษัท outsource ที่เราให้บริษัท ที่มีความชำนาญบางอย่างเช่น เรื่องการตัดต่อวิดีโอ หรือเรื่องของการทำการตลาดออนไลน์ บางช่องทาง เราสามารถที่จะ outsource ไปให้คนอื่นทำได้ หรือเรื่องของการทำเว็บไซต์ การตอบเพจเราก็สามารถ outsource ไปให้บริษัททำได้

ส่วน option ที่ 3 ก็คือ Freelance ก็คือคนรับจ้างอิสระทั่วไป และมีความชำนาญ ในเรื่องที่เราต้องการจะจ้าง ก็มี 3 option ใหญ่ๆ

วันนี้ผมจะพูด Freelance กับ outsource เป็นหลัก เพราะว่าสองเรื่องนี้ ต้องบอกว่าทุกวันนี้ ผมคุยกับเจ้าของธุรกิจมาเยอะ บอกเป็นเสียงเดียวกันว่า outsource และ Freelance เราหาได้ง่ายกว่า คนทำงานประจำ เวลาเราประกาศสมัครสมัครงาน เดี๋ยวนี้หาคนมาทำงานยากกว่าหา Freelance กับ outsource แล้ว หรือพูดง่ายๆก็คือ Freelance กับ outsource เราจะมีตัวเลือกในการเลือกมากกว่าหาจ้างวานคนทำงานประจำนั่นเอง

ซึ่งเวลาเรามีตัวเลือกมากกว่า ก็หมายความว่า เรามีอำนาจต่อรองมากกว่า เราสามารถที่จะเลือก ถ้าในกรณีที่ เขาทำงานได้ไม่ดี ตามที่เราคาดหวัง หรือว่าตามที่ตกลงกัน หรือว่า แนวทางการทำงาน ไม่ตรงกัน เราสามารถที่จะคุยกันตรงๆกับ outsource และ freelance แล้วก็หาเจ้าใหม่ เข้ามาทำแทนได้ อย่างไม่ยากเย็น เเต่ว่าสำหรับคนทำงานประจำ เนื่องจากตัวเลือกน้อย คนทำงานประจำ เนื่องจากตัวเลือกน้อย เทรนด์คนทำงานประจำ น้อยลงเรื่อยๆ ทุกคนอยากจะไปรับงานส่วนตัว ทำงานที่บ้าน แล้วก็มีความเป็นอิสระ ทำงานที่ไหนก็ได้ เป็นเทรนด์ของคนรุ่นใหม่ ซึ่งคนทำงานดิจิทัลส่วนใหญ่อายุจะประมาณ 25-30 บวกลบ range จะอยู่ประมาณนี้

ดังนั้น Life Style ส่วนใหญ่ก็จะชอบทำกันแบบนี้ ดังนั้น คนทำงานประจำก็จะมีน้อย ที่สำคัญก็คือเรามีอำนาจต่อรองในการเลือกคนมาทำงาน in house ค่อนข้างน้อย เพราะว่าเขามีบริษัทที่มีความต้องการในเรื่องนี้ค่อนข้างเยอะ แล้วคนก็น้อย ดังนั้นสิ่งที่จะเกิดขึ้น อย่างที่หลายๆคนประสบพบเจอก็คือ จะเกิดอาการเปลี่ยนงานบ่อย หรือ turnover rate จะสูงมาก เราจะต้องคอยง้อมากๆ เลยสำหรับคนทำงานประจำที่ทำเรื่องดิจิทัล

บางทีเข้ามาแล้วก็ไม่ได้มีประสบการณ์มาก บางครั้งพอเรา Training สอนขึ้นมา หรือว่าหลายท่าน ส่งคนมาเรียนในคอร์สผมนะครับ เสร็จเเล้วก็ลาออก ไปทำงานที่อื่น สุดท้ายตัวเอง ก็ต้องมาเรียนรู้ด้วยตัวเอง เพราะว่าต้องพึ่งพาตัวเองเป็นหลัก แล้วก็ไปบรีฟงาน ไปสอนงานเอานะครับ ผมก็ให้ข้อเสนอนะไปว่า ยุคนี้เป็นไปได้ ให้คุณมาเรียนด้วยตัวเอง ให้เข้าใจว่า ทุกอย่างมันต้องทำอย่างไร อะไรอย่างไร อย่างน้อยที่สุดเวลาที่ฉุกเฉิน ไม่มีใครดูแล เรายังพึ่งพาตัวเองได้ ติดอะไร ยังไลน์ มาถามผมได้ เพราะว่ามาเรียนกันเเล้ว ผมก็ยังพอให้คำปรึกษาได้

ถ้าคุณมีความเข้าใจอยู่เดิมแล้ว มันก็จะคุยกันและเข้าใจได้ง่าย แล้วพนักงานประจำ คุณจะให้มาเรียน อันนี้ก็เป็นเรื่องที่ดี แต่ว่าอย่างน้อย คุณควรจะต้องรู้และเข้าใจด้วย และอีกประเด็นหนึ่ง ก็คือ เดี๋ยวนี้งานในเรื่องเกี่ยวกับดิจิทัล มันค่อนข้าง dynamic มากนะครับ
ความหมายคือ ในเเต่ละเรื่องๆ มันมีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา ในเรื่องโฆษณา Google โฆษณา Facebook เรื่องคอนเทนต์ มันมีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลาแล้วทุกเรื่อง มันต้องดีสอดประสานกัน

ดังนั้น คุณอย่าคาดหวังจะให้คนหนึ่งคน มาดูแลทุกอย่างแล้วทำได้ดี ด้วยตัวคนเดียวได้ หรือคุณอย่าคาดหวังว่า จะจ้างคนหลายๆคน ที่เก่งในทุกเรื่อง มาอยู่ในบริษัท เพราะวิธีนั้น จะทำให้ต้นทุน เรื่องบุคลากรสูงมาก ดังนั้นคำตอบมันควรจะต้องเป็นอย่างไร คำตอบก็คือ มันควรจะต้องมีคนรู้เรื่องบ้าง อยู่ในบริษัท เป็น in houes พอเข้าใจในหลายๆเรื่อง คนนั้นก็มีหน้าที่ ทำงานร่วมกับ Freelance แล้วก็ outsource ที่มีความเชี่ยวชาญ ในเเต่ละเรื่องที่เรากำลังต้องการสกิลอย่างนั้น

เช่น เราต้องการคนตัดต่อวิดีโอ อย่างน้อย คนที่อยู่ในบริษัท พอจะเข้าใจ product ตัวเอง พอจะเข้าใจเรื่องพื้นฐานการตลาดแล้วก็ พอจะประสานงาน กำกับดูแลคุยกันรู้เรื่อง แล้วก็เอาคนนี้ คุยกับคนตัดต่อวิดีโอ เพื่อบรีฟงานกัน บรีฟโจทย์กัน แล้วก็ทำงานร่วมกัน

ผมแนะนำว่าวิธีนี้ จะ Flexible และตอบโจทย์มากกว่า สำหรับยุคนี้